อนุทิน โทษสังสรรค์ ทำโควิดระบาด แจงสัญญาวัคซีนแอสตราฯ

อนุทิน โทษสังสรรค์ ทำโควิดระบาด แจงสัญญาวัคซีนแอสตราฯ

วันนี้ 2 กันยายน 2564  ในศึกซักฟอก อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย กรุงเทพฯ ในศึกการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการบริหารจัดการเรื่องวัคซีนโควิด-19 ว่า

ขอชี้แจงในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข 

ตามข้อกล่าวหาของผู้อภิปรายไว้ ดังนี้ จากการที่พรรคร่วมฝ่ายค้านกล่าวหาว่าตนประเมินความรุนแรงและผลกระทบของโควิด-19 ผิดพลาด ในความเป็นจริงนั้น กลับไป เมื่อช่วงสิ้นปี 2562 สธ.ทราบว่ามีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจระบาดขึ้นในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ตนในฐานะ รมว.สาธารณสุข ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทันที หาข้อมูลกับเครือข่ายนานาชาติ ยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคทุกด่านเข้าออกระหว่างประเทศ และเมื่อวันที่ 13 ม.ค.62 พบผู้ติดเชื้อรายแรก เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน จากนั้น สธ.ยกระดับการคัดกรองและค้นหาผู้ติดเชื้อ จึงพบนักท่องเที่ยวจากจีนติดเชื้ออีกกว่า 30 ราย โดยเราค้นหาพบทุกราย รักษาจนหาย ไม่มีผู้เสียชีวิต และเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ รัฐบาลจีนซาบซึ้งในไมตรีของประเทศไทย เป็นที่มาของการช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน

“ต้องเรียนให้เข้าใจตรงกันว่า โควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ขยายความรุนแรงระบาดทั่วโลก ไม่มีใครรู้จักมาก่อน การรับมือ เฝ้าระวังป้องกัน การรักษาโรค ต้องมีการปรับแนวทางต่อเนื่องตามอาการของผู้ป่วย ซึ่งต้องขอบคุณนักวิทยาศาสตร์ของไทย อาทิ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สามารถค้นพบรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรน่าตัวนี้ได้ตั้งแต่เริ่มมีการระบาด ทำให้เราสามารถตรวจหาผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้ได้อย่างรวดเร็ว คณะแพทย์ของ สธ. ร่วมมือกับคณะแพทยฯ โรงเรียนแพทย์ต่าง ๆ ได้ปรับแนวทางการรักษาโรคให้เหมาะสม จนพบว่า การรักษาผู้ป่วยด้วยยาต้านไวรัสที่ชื่อ “ฟาวิพิราเวีย์” ทำให้อาการป่วยทุเลาลงจนหายเป็นปกติได้ หากผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัวอื่นๆ และใช้เวลาในการรักษาไม่นาน”

โว อัตราหายป่วยโควิดเยอะ

ถึงแม้จะมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ แต่เกือบทุกคน หายป่วย กลับบ้านได้ ถึงแม้ว่าจะมีผู้ป่วยที่เสียชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนในกระทรวงสาธารณสุข บุคลากรสาธารณสุขทุกคนเสียใจอย่างยิ่ง แต่อัตราการป่วยหนักและเสียชีวิตของไทยยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทั่วโลก และเราได้เตรียมพร้อมในด้านการแพทย์และเวชภัณฑ์อยู่ตลอดเวลา

นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยปราศจากการติดเชื้อในช่วงหลังของปี 2563 ที่เราประคองกันมาเกือบครึ่งปี จนมาพบการระบาดรอบที่ 2 ในปลายเดือนธ.ค.63 สาเหตุหลักจากการไม่เคารพกฎหมายของบางกลุ่มคน การลักลอบเข้าประเทศของแรงงานต่างด้าว มีการสัญจรไปมาหาสู่กัน เป็นคลัสเตอร์แรงงานต่างด้าวเกิดขึ้นใน จ.สมุทรสาคร และปริมณฑลรอบ ๆ กรุงเทพมหานคร

แต่ด้วยการเตรียมพร้อมที่ดีของ สธ.ตั้งแต่การระบาดครั้งแรก เราได้สำรองยา อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ต่างๆ ด้วยความพร้อม ไม่มีการขาดตลาดหรือการกักตุนสินค้าเช่นหน้ากากอนามัยอีกต่อไป สธ.จึงควบคุมการระบาดรอบ 2 ได้ด้วยมาตรการแยกกักในโรงาน(Factory Isolation) แต่เมื่อพบการระบาดรอบ 3 ตั้งแต่เดือน เม.ย.64

จนถึงวันนี้ ตนยอมรับว่ามีความรุนแรงในทุกมิติ สาเหตุหลักยังคงเริ่มมาจากการลักลอบเข้าเมือง การไม่เคารพกฎหมาย การขาดความระมัดระวัง ย่อหย่อนมาตรการการป้องกันตนเอง มีการไปงานเลี้ยงสังสรรค์ ไปสถานบันเทิงและภัตตาคารเหมือนกับภาวะปกติ มีการลักลอบเล่นการพนันทั้งในประเทศและข้ามไปเล่นที่ประเทศเพื่อนบ้าน นำเชื้อกลับมาติดคนใกล้ชิดจนเป็น Super Spreader ขยายวงมายังสถานที่ต่างๆ ติดเชื้อในโรงงาน ครัวเรือน จนการติดเชื้อเพิ่มเป็นหลักหมื่นในปัจจุบัน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค ที่นำกฎหมายของหลายกระทรวงไปบูรณาการรวมกันที่ ศบค. สธ.เป็นหน่วยงานปฏิบัติหลักที่ดำเนินการตามนโยบายและข้อสั่งการของ ศบค. ซึ่งภาระที่หนักสุด คือ การจัดเตรียมสถานพยาบาลให้มีความพร้อม การมียา มีเวชภัณฑ์ให้เพียงพอ และการป้องกันควบคุมโรคให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น หาก สธ. ไม่มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า คงไม่สามารถที่จะให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยในหลักหมื่นได้ ด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ ทำให้อัตราส่วนผู้เสียชีวิตยังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งโลก

“เรามีผู้ป่วยติดเชื้อเกินหนึ่งล้านราย แต่เป็นจำนวนสะสมตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน แต่เราก็มีผู้หายป่วยมากกว่า 9 แสนราย อัตราการเสียชีวิตยังต่ำกว่า 1% และส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวอื่นๆ ที่เป็นความเสี่ยง ขอกราบเรียนพี่น้องประชาชน ว่า ผม ท่านนายก และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน รู้สึกเสียใจ ผมถือโอกาสนี้กราบขออภัยต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ขออภัยอย่างยิ่งที่ไม่อาจรักษาชีวิตผู้ป่วยเหล่านั้นไว้ได้” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า พื้นที่การระบาดสูงสุด คือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับ กทม.นั้น มีการบริหารราชการเป็นเอกเทศ กทม. ไม่มีระบบการสาธารณสุขที่กระจายลงไปจนถึงชุมชนเหมือนกับต่างจังหวัดที่มีตั้งแต่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ อสม โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลอำเภอ ลงไปจนถึงสถานีอนามัยที่ตอนนี้เราเรียกชื่อใหม่ว่า รพ.สต.

ดังนั้น เมื่อมีการระบาดใหญ่ใน กทม. จึงเกินกำลังที่โครงสร้างระบบการสาธารณสุขของ กทม. จะรองรับได้ แต่ สธ.ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ตนได้ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินสนับสนุนภารกิจด้านสาธารณสุขทุกรูปแบบกับ กทม. จึงเป็นที่มาของการตั้งศูนย์แรกรับผู้ป่วยติดเชื้อ ที่อาคารนิมิบุตร เพื่อคลายคอขวดของผู้ป่วยที่รอเตียง 

แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม